นายไมตรี แถมฉิมพลี อายุ 26 ปี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ทักมาขายรถกู้ภัยพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างให้ โดยให้เหตุผลว่าจะซื้อรถใหม่ และพ่อเสียชีวิตแล้วไม่อยากเก็บรถไว้ หลังจากที่ตนเองได้เช็คภาพรถที่คนขายส่งมาให้ดูแล้วก็ตกลงซื้อขายกันที่ราคา 105,000 บาท โดยผู้ขายได้ขับรถจากเชียงใหม่มาส่งให้ตนเองที่บ้าน และก่อนซื้อตนเองก็ได้สอบถามจากผู้ขายแล้วว่า รถคันดังกล่าวไม่ใช่รถบริจาค ซึ่งผู้ขายก็ยืนยันว่า ไม่ใช่รถบริจาคแน่นอน
หลังได้รับรถตนเองก็ได้นำมาติดอุปกรณ์เพิ่มและนำรถออกไปวิ่งเคสแต่กลับพบว่ารถมีปัญหา จึงติดต่อกลับไปหาผู้ขายให้ร่วมรับผิดชอบ เนื่องจากผู้ขายเคยยืนยันว่ารถหากรถเกิดปัญหาจะช่วยรับผิดชอบ แต่เมื่อตนทวงถามค่าใช้จ่ายกลับแจ้งว่าผู้ขายกลับบ่ายเบี่ยงว่าเงินอยู่ที่พ่อ ทั้งที่ตอนแรกแจ้งว่าพ่อเสียแล้วคำพูดจาก เป๋าเงินจริงสำ
จนกระทั่งวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา มีเพื่อนใน Facebook ของตนโทรเข้ามาบอกว่า รถคันนี้และอุปกรณ์ตัดถ่างที่มากับรถ เป็นของบริจาคทั้งหมด และผู้บริจาคไม่มีส่วนรับรู้หรือรู้เห็นในการขายใดใดทั้งสิ้น โดยตนเองได้ตรวจสอบแล้วว่าข้อมูลนี้เป็นเรื่องจริง จึงได้ติดต่อกลับไปยังผู้ขายเพื่อขอคืนค่ารถและค่าเสียเวลา รวมทั้งทำให้ตนเสียชื่อเสียงด้วย แต่กลับไม่ได้รับการติดต่อใดๆ กลับมาจากผู้ขาย ตนเองจึงตัดสินใจไปลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
นายไมตรี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเรื่องก็มีหลายคนที่เข้ามาเล่าเรื่องราวของคนขายรถกู้ภัยรายนี้ให้ตนเองฟัง โดยทางคนขายรถตู้รายนี้ยังได้ขู่ตนเองว่าจะฟ้องพรบ.คอมที่ทำให้เขาเสื่อมเสียด้วย ถึงตอนนี้ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะเงินก็จ่ายไปหมดแล้วเป็นแสน แล้วยังเสียเครดิตในวงการเนื่องจากตนเองทำการค้าขายรถกู้ภัยมือสองอยู่ ก็อยากฝากเตือนเขาว่าถ้าไม่พร้อมไม่ควรมาเป็นอาสากู้ภัยโดยหวังรอเงินบริจาค และหากจะเลิกทำก็ควรนำของที่ได้รับบริจาคไปบริจาคต่อไม่ใช่เอามาขายแบบนี้
เปิดใจ “ทักษิณ” ให้สัมภาษณ์สื่อครั้งแรก ยันไม่บังคับลูกในสนามการเมือง!
สรุป 8 ทีมสุดท้าย ยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2023-2024
“บิ๊กเต่า” ไม่กังวลโดน “บิ๊กโจ๊ก” ฟ้องหมิ่น ลั่น เรื่องนี้อีกยาว